มาทำความรู้จักกับผ้านาโนให้มากขึ้น รวมไปถึงประโยชน์ที่ได้จากการใช้งาน
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเรามักจะได้ยินคำว่า “นาโนเทคโนโลยี” อยู่บ่อยครั้งและมักจะพบอยู่ในองค์ประกอบต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมเคมี รถยนต์ ก่อสร้าง อิเล็กทรอนิกส์ การแพทย์ การเกษตร พลังงานและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการผลิตวัคซีนป้องกันโควิดอย่าง mRNA ว่าแต่นาโนคืออะไร แล้วเกี่ยวข้องอะไรกับเทคโนโลยีบ้าง วันนี้เรามาหาคำตอบกัน
นาโนคืออะไร?
นาโน มาจากภาษากรีกในคำว่า Nanos แปลว่า แคระ คำว่าเราใช้คำว่านาโนเป็นหน่วยวัดทางวิทยาศาสตร์ซึ่งมีค่าเศษหนึ่งส่วนพันล้าน หรือ 10-9 หรือ 0.000000001 เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เราจะลองนำคำสองคำมารวมกัน นั่นคือคำว่า นาโน กับ เมตร กลายเป็น นาโนเมตร จะได้ความหมายว่า หน่วยวัดที่มีขนาดเท่ากับ “เศษหนึ่งส่วนพันล้านส่วนของหนึ่งเมตร” (1 nm) หรือเทียบง่าย ๆ ว่า หน่วย 1 นาโนเมตรมีขนาดเล็กกว่าเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผมคนเราถึงประมาณ 80,000 – 100,000 เท่า โดยปกติสายตาของมนุษย์นั้นมองเห็นวัตถุด้วยตาเปล่าได้ไม่เกินขนาดประมาณ 10,000 นาโนเมตร การจะมองเห็นอนุภาคที่มีขนาดเล็กจิ๋วจึงต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ที่มีกำลังขยายการมองเห็นสูงเท่านั้น
แปลว่าอะไรก็ตามที่มีคำว่านาโนอยู่ในนั้น ย่อมหมายถึงอะไรบางอย่างที่เล็กจิ๋วมาก ๆ จนสายตาคนเราไม่อาจเห็นได้นั่นเอง
นาโนเทคโนโลยีคืออะไร?
องค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน (The International Organization for Standardization: ISO) ได้ให้คำนิยามนาโนเทคโนโลยี (Nanotechnology) ว่าหมายถึง “การประยุกต์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เพื่อสังเคราะห์และควบคุมสสารในระดับนาโน เพื่อใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติและปรากฏการณ์เชิงโครงสร้างที่เกิดจากอนุภาคขนาดที่เล็กมาก ทำให้มีความแตกต่างไปจากคุณสมบัติของสสารในระดับอะตอมหรือโมเลกุลหรือวัสดุใหญ่” นาโนเทคโนโลยีเป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง การจัดการ การสังเคราะห์วัสดุหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ในขนาดชิ้นที่เล็กมากระดับนาโนเมตร ซึ่งจะส่งผลให้วัสดุหรืออุปกรณ์เหล่านั้นมีคุณสมบัติที่พิเศษยิ่งขึ้นทั้งทางด้านกายภาพ เคมี และชีวภาพ เพิ่มประโยชน์ใช้สอยต่าง ๆ แก่ผู้ใช้งานและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่สินค้าเหล่านั้น ซึ่งนาโนเทคโนโลยีเป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับวิทยาการหลากหลายแขนง ตั้งแต่เคมีสังเคราะห์ วัสดุศาสตร์ วิศวกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ จนไปถึงอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสี พลาสติก ยาง กระดาษ กระจก ก่อสร้าง และผลิตสารเร่งปฏิกิริยา
นาโนเทคโนโลยีในประเทศไทย
สำหรับประเทศไทยเองก็ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและพัฒนานาโนเทคโนโลยีเช่นกัน ในปี พ.ศ. 2546 ได้ก่อตั้ง ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (NANOTEC) เป็นองค์กรในกำกับของรัฐ ภายใต้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ดำเนินงานวิจัย พัฒนา ออกแบบและวิศวกรรม และประยุกต์นาโนเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดความเป็นเลิศและสามารถถ่ายทอดสู่การใช้ประโยชน์ให้กับภาคการผลิต อันจะนำไปสู่การยกระดับผลิตภัณฑ์ที่เป็นฐานสำคัญของประเทศไทย ส่งผลต่อการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ภายใต้ความตระหนักในการรักษาและดูแลใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบันงานวิจัยของนาโนเทคแบ่งออกเป็น 3 สาขาหลัก ได้แก่ ได้แก่ ด้านวิทยาศาสตร์กายภาพ (Physical Sciences) เช่น วัสดุ สิ่งทอ การแปรรูป และเก็บสะสมพลังงาน, ด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ (Medical Sciences) เช่น กระบวนการผลิตและเก็บรักษาอาหาร การตรวจวินิจฉัยโรค ระบบนำส่งยา, และ ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม (Society and Environment) เช่น การเพิ่มผลผลิตการเกษตรและทรัพยากรธรรมชาติ การตรวจจับและควบคุมแมลงและพาหะของโรค การบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น
![](http://shirtingfabric.com/wp-content/uploads/2021/07/Add-Line.png)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
นาโนในสิ่งทอ
มีผลิตภัณฑ์หนึ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรามากที่ใช้นาโนเทคโนโลยีกันมากขึ้นนั่นคือสิ่งทอต่าง ๆ เสื้อผ้า เครื่องแต่งกายในชีวิตประจำวันของเรา โดยสิ่งทอเหล่านี้จะมีอนุภาคนาโนหรือเส้นใยนาโนปรากฏอยู่บนผิว หรือผสมอยู่เนื้อของเส้นใยผ้า หรือมีชั้นฟิล์มที่มีขนาดความบางในระดับนาโนเมตรเคลือบอยู่บนผิวของเส้นใยผ้าเพื่อให้มีคุณสมบัติต่าง ๆ ตามที่ต้องการ เช่น
- กันน้ำหรือสะท้อนน้ำ
สมัยก่อนจะใช้วิธีการเคลือบผ้าด้วยสารที่ไม่ดูดซึมน้ำ เช่น พวกขี้ผึ้งหรือยางธรรมชาติ ปัจจุบันมีทั้งการปรับแปลงพื้นผิวเส้นใยให้มีคุณสมบัติกันน้ำ หรือใช้วิธีการทางเคมีเพื่อเคลือบผิวเส้นใยด้วยสารที่มีคุณสมบัติไม่ดูดซึมน้ำ โดยใช้หลักการทางด้านนาโนเทคโนโลยีมาปรับปรุงพื้นผิวสิ่งทอที่สามารถเลียนแบบการกลิ้งของน้ำบนใบบัว ทำให้สิ่งทอนั้นไม่เปียกน้ำและทำความสะอาดเองได้ - ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย
เป็นการใช้นาโนเทคโนโลยีเพื่อตกแต่งสิ่งทอให้มีคุณสมบัติหยุดยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ ลดการเกิดกลิ่นจากเหงื่อหรือสิ่งสกปรก และลดการเสียหายของผ้าเนื่องจากเชื้อราหรือแบคทีเรียที่ทาให้เส้นใยเปื่อยขาดง่าย - กันไฟฟ้าสถิต
เป็นการใช้นาโนเทคโนโลยีปรับผิวหน้าของผ้าให้มีการเหนี่ยวนำไฟฟ้าให้ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้ประจุไฟฟ้าวิ่งผ่านลงสู้พื้นดินหรือบริเวณรอบ ๆ ได้ง่ายขึ้น ป้องกันเกิดประจุไฟฟ้าเวลาสิ่งทอเสียดสีผิวหนังของผู้สวมใส่ - กันยับ
เป็นการใช้นาโนเทคโนโลยีตกแต่งเส้นใยเพื่อกันผิวของเส้นใยไม่ให้ยับ ให้เส้นด้ายลื่นนุ่ม เคลื่อนตัวสะดวก ในกรณีของสารบางอย่างเช่นเรซินอาจทำให้เนื้อผ้าแข็งกระด้างขึ้น ซับน้ำได้ไม่ดี ระบายอากาศไม่ดี ทำให้ผู้สวมใส่อึดอัด ซึ่งนาโนเทคโนโลยีจะเข้ามาช่วยลดข้อจำกัดตรงนี้ลงได้ - เบา นุ่มลื่น
เป็นการใช้นาโนเทคโนโลยีในการการตกแต่งให้ผ้านุ่ม น่าจับต้อง และทำให้ผ้าอยู่ตัวดีขึ้น ซึ่งนอกจากผ้าแล้ว เราจะพบนาโนเทคโนโลยีที่ทำให้ผ้านุ่มขึ้นในน้ำยาปรับผ้านุ่มอีกด้วย - กันรังสียูวี
แสงยูวีเป็นสาเหตุหลักที่ทาให้การเกิดริ้วรอยและความเหี่ยวย่นของผิวหนังก่อนวัย รวมถึงก่อให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ และสิ่งทอเองเมื่อโดนแสงแดดบ่อยครั้งก็จะทำให้สีซีดลง การใช้สารตกแต่งจากนาโนเทคโนโลยีเข้ามาผสมในสิ่งทอจะช่วยให้สะท้อนแสงและรังสียูวีได้ดีขึ้น
สำหรับใครที่สนใจเรื่องนาโนเทคโนโลยีและสิ่งทอ รวมไปถึงผ้าต่าง ๆ เราขอแนะนำ D’Finest Fabric (ดีไฟนเนสต์ แฟบริค) ผู้ผลิตและจำหน่ายผ้าตัดเสื้อเชิ้ตและผ้าตัดยูนิฟอร์มที่มีมาตรฐานเป็นรุ่นที่ 4 ด้วยประสบการณ์ที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นมากว่า 80 ปี พร้อมนำเทคโนโลยีสิ่งทอใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้ เช่น การผลิตผ้าที่ไม่ทำให้เกิดขุย การหดตัว หรือซีดจาง จึงทำให้บริษัทฯ สามารถผลิตผ้าผ้าตัดเสื้อเชิ้ตและผ้าตัดยูนิฟอร์มที่ได้คุณภาพและคุ้มค่าราคา ด้วยมาตรฐานการผลิตและการรักษาเนื้อผ้าอย่าง OEKO-TEX standard 100, BCI, และ Bureau Veritas standard SA8000
บริการของ D’Finest Fabric มีตั้งแต่จำหน่ายผ้ากว่า 1,000 รายการ ไม่ว่าจะเป็น ผ้าคอตตอน, ผ้าโพลีเอสเตอร์, ผ้าลินิน, ผ้าอ๊อกฟอร์ด, ผ้าทวิล , ผ้าโพลีเอสเตอร์ผสมคอตตอน, ผ้า wrinkle-free, และผ้านาโนเทคโนโลยี ยินดีตัดปลีกอย่างไม่มีขั้นต่ำ พร้อมบริการขึ้นผ้าตัวอย่างในทุกแบบให้ตรงตามความต้องการมากที่สุด
เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ : http://shirtingfabric.com
อีเมล : dfinestfabric@gmail.com
Facebook: https://facebook.com/Dfinestfabric/
โทร.
สำนักงาน: +662-391-5737, +662-391-5738, +662-391-5739
มือถือ: +6686-633-8118, +6685-612-6555