ผ้าในท้องตลาดแต่ละประเภทมีคุณสมบัติอย่างไรเหมาะกับการใช้งานตัดเสื้อผ้าแบบไหน
เสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่ม นับเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต เพื่อปกปิดร่างกายและช่วยสร้างความอบอุ่นสำหรับมนุษย์ แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไป นิยามและความสำคัญของเสื้อผ้าก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ส่งผลให้การเลือกสวมใส่เสื้อผ้าในปัจจุบันไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ที่การนำมาใช้เพื่อเป็นปัจจัยในการดำรงชีวิตอีกต่อไป แต่ยังได้ถูกนำมาใช้เพื่อเป็นเครื่องบ่งบอกถึงลักษณะความชอบ และฐานะของผู้สวมใส่ ทำให้ภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอในปัจจุบันได้มีการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วยในกระบวนการผลิตถักทอ เพื่อให้ได้เนื้อผ้าในแบบต่าง ๆ ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับกับการใช้งานในแต่ละประเภท ดังนี้
ผ้าคอตตอน
ผ้าคอตตอน หรือผ้าฝ้าย เป็นเนื้อผ้าที่ผลิตมาจากเส้นใยฝ้าย (Cotton) ซึ่งเป็นเส้นใยธรรมชาติที่ได้มาจากการนำผลฝ้ายที่แก่จัดมาแยกเอาเปลือกและเมล็ดออก ก่อนจะนำปุยฝ้ายสีขาว ซึ่งเป็นส่วนที่ห่อหุ้มเมล็ด มาปั่นจนเกิดเป็นเส้นด้าย แล้วนำมาถักทอเป็นผืนผ้า โดยคุณภาพและความยาวของเส้นใยฝ้ายนั้นจะแตกต่างกันออกไปตามสายพันธุ์ รวมถึงลักษณะพื้นที่ และสภาพภูมิอากาศที่ใช้ในการปลูก เส้นใยฝ้ายส่วนใหญ่จะมีความยาวประมาณ 7/8 นิ้ว ซึ่งขนาดที่นิยมนำมาใช้ในงานอุตสาหกรรมสิ่งทอจะมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 1/2 นิ้ว
คุณสมบัติของผ้าคอตตอน
- ผลิตจากเส้นใยฝ้ายธรรมชาติ ให้สัมผัสนุ่ม สวมใส่สบาย มีความทนทาน
- ผ้าคอตตอนสามารถดูดซับความชื้นจากเหงื่อและน้ำได้ดี และยังสามารถระบายความชื้นออกได้อย่างรวดเร็ว จึงเหมาะสมสำหรับการสวมใส่ในช่วงที่มีอากาศร้อน
- ผ้าคอตตอนทนต่อความร้อน จึงสามารถซักและรีดได้ด้วยอุณหภูมิสูง โดยไม่ทำให้เนื้อผ้าไหม้หรือเกิดการหดตัว
- ผ้าคอตตอนมีคุณสมบัติการคืนต่ำ และค่อนข้างยับง่าย แต่ปัจจุบันได้มีการพัฒนากระบวนการในการผลิตเส้นใยฝ้ายให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น จึงทำให้ผ้าคอตตอนเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย
- เนื้อผ้าเหมาะสำหรับการทำเสื้อยืด โดยสามารถนำมาทำซิลค์สกรีนแบบสีลอย สีจม รวมไปถึงการปริ้นสกรีน ได้โดยไม่ต้องกลัวว่าเนื้อผ้าจะเสีย
ประเภทของผ้าคอตตอน
1. แบ่งตามชนิดของเส้นด้าย สำหรับผ้าคอตตอนที่นำมาผลิตเป็นเสื้อยืดนั้น โดยทั่วไปแล้วจะถูกแบ่งชนิดตามเบอร์ของเส้นด้าย ที่พบเห็นเยอะในท้องคตลาดมีอยู่ 3 เบอร์ โดยเรียงตามขนาดของเส้นด้ายจากใหญ่ไปเล็ก ได้แก่ 20, 32 และ 40 ตามลำดับ สำหรับเบอร์เส้นด้ายที่มากกว่า 50 ขึ้นไปนั้น จะถือว่าเป็นเส้นด้ายคุณภาพพรีเมี่ยม มักจะไม่ค่อยพบเห็นในท้องตลาด เนื่องจากกระบวนการในการผลิตเส้นด้ายให้มีขนาดเล็กจำต้องอาศัยเครื่องจักรและการผลิตที่ยุ่งยากซับซ้อน จึงทำให้มีต้นทุนในการผลิตที่ค่อนข้างสูง สาวนมากต้องสั่งผลิต
- ผ้าคอตตอน 100 % เบอร์ 20 มีขนาดเส้นด้ายใหญ่ที่สุด และราคาถูกที่สุด ทำให้ได้เนื้อผ้าที่มีลักษณะค่อนข้างหนา จึงนิยมนำมาใช้ทำเสื้อยืดและเสื้อโปโลสำหรับผู้ชาย
-
ผ้าคอตตอน 100 % เบอร์ 32 เป็นเนื้อผ้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยนิยมนำมาทำเสื้อยืดที่เน้นความนุ่มสบาย และระบายอากาศได้ดี
-
ผ้าคอตตอน 100 % เบอร์ 40 เป็นผ้าที่ผลิตจากเส้นด้ายขนาดเล็ก จึงนิยมนำมาทำเป็นเสื้อสำหรับเด็กทารก หรือเสื้อที่ต้องการเน้นความเบาบางเป็นพิเศษ
ที่ดีไฟน์เนส เรามีผ้าคอตตอนคุณภาพพรีเมี่ยมเริ่มต้นที่เบอร์40 จนสูงไปถึงเบอร์ 120 ผลิตสำเร็จให้เลือกซื้อทั้งปลีกและส่ง ติดต่อสอบถามดูได้นะครับ
2. แบ่งตามกระบวนการผลิตเส้นด้าย
กระบวนการในการผลิตเส้นใยฝ้าย รวมถึงสายพันธุ์ของฝ้ายที่เลือกใช้ และการคัดแยกคุณภาพของฝ้ายหลังการเก็บเกี่ยว เป็นตัวชี้วัดสำคัญในการบ่งชี้ถึงคุณภาพในด้านการเรียงตัวของเส้นด้าย ที่ส่งผลต่อความหนาแน่น และความสม่ำเสมอของเนื้อผ้าคอตตอน ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 เกรด ได้ดังนี้
-
Cotton OE เป็นผ้าคอตตอนที่มีเกรดต่ำและมีราคาถูกที่สุด เนื่องจากเส้นใยฝ้ายไม่ผ่านกระบวนการคัดคุณภาพ จึงทำให้เสื้อยืดที่ผลิตจากผ้าคอตตอนชนิดนี้มีความกระด้าง ไม่ทนทาน และขาดง่าย
-
Cotton Semi เป็นผ้าคอนตอนเกรดระดับปานกลางที่มีการนำเครื่องจักรมาใช้ในกระบวนการสางเส้นใยฝ้าย เพื่อให้ได้ผลผลิตที่คุณภาพมากขึ้น โดยเส้นด้ายเกรดนี้จะเป็นเส้นด้ายที่มีใยสั้นและมีขนาดใหญ่ (เบอร์ 20 – 32) ซึ่งจะให้เนื้อผ้าที่มีความเนียนนุ่มและหยาบกระด้างในระดับปานกลาง
-
Cotton Compact เป็นผ้าคอนตอนที่ผ่านกระบวนการผลิตเส้นด้ายโดยวิธีการหวีเส้นใยด้วยเครื่องจักร ที่เป็นไปอย่างละเอียดอ่อนและซับซ้อน ทำให้ได้เส้นด้ายขนาดเล็ก เบอร์ 32 ขึ้นไป ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยในการกำจัดสิ่งสกปรกให้หลุดออกจากเส้นใยผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้เนื้อผ้าที่มีความละเอียด อ่อนนุ่ม และทนทาน
ผ้าคอตตอน เส้นด้ายเบอร์ 50 ขึ้นไป ดีไฟน์เนสใช้กระบวนการผลิตแบบ cotton compact เท่านั้นเพื่อได้ประสิทธิภาพและคุณภาพผ้าสูงสุด
ผ้าโพลีเอสเตอร์
ผ้าโพลีเอสเตอร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ผ้า TK เป็นเนื้อผ้าที่ผลิตขึ้นมาจากเส้นใยสังเคราะห์ ซึ่งเกิดจากกระบวนการทางเคมีของ Ethylene Glycol และ กรด Terephthalic ทำให้ได้เส้นใยพลาสติกที่มีความแข็งแรงกว่าเส้นใยจากธรรมชาติ รวมถึงมีความยืดหยุ่นสูง และทนทานต่อการหลุดรุ่ยหรือฉีกขาดได้ดี
ในปัจจุบัน ผ้าโพลีเอสเตอร์ได้ถูกนำมาพัฒนาเพื่อให้มีรูปแบบที่หลากหลาย และมีคุณภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น โดยหนึ่งในรูปแบบที่ได้รับความนิยม คือการนำผ้าใยสังเคราะห์ชนิดนี้มาพัฒนาให้มีความนุ่มนวลจนมีสัมผัสคล้ายกันกับผ้าไหม หรือที่มักจะรู้จักกันในชื่อ Silk ประเภทต่าง ๆ เช่น Silk satin , Silk Italy และ Silk Spain เป็นต้น และบางครั้งก็ได้มีการนำเส้นใยโพลีเอสเตอร์ไปผสมร่วมกับใยธรรมชาติอื่น ๆ เช่น ฝ้าย เพื่อช่วยให้เนื้อผ้ามีความคงทน รวมถึงสามารถระบายอากาศและซึมซับน้ำได้ดีมากยิ่งขึ้น
คุณสมบัติของผ้าโพลีเอสเตอร์
-
ผ้าโพลีเอสเตอร์มีความเหนียว คงรูปได้ดี และทนทานต่อสารเคมี เช่น น้ำยาฟอกขาว
-
เนื้อผ้ามีน้ำหนักเบา สัมผัสนุ่ม สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี เหมาะสำหรับนำมาใช้ทำชุดกีฬาและชุดออกกำลังกาย
-
ผ้าโพลีเอสเตอร์ไม่ดูดความชื้น ทำให้แห้งเร็วและไม่อมน้ำ จึงทำให้ไม่เกิดเชื้อราและเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย
-
เส้นใยสามารถทนความร้อนได้สูง และทนต่อการขัดสีได้ดี ทำให้สีของเสื้อไม่ซีด ไม่ตกง่าย และไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิว
-
ผ้าโพลีเอสเตอร์ เป็นผ้าเพียงชนิดเดียวที่สามารถนำมาพิมพ์ลายผ้าแบบซับลิเมชั่น (Sublimation) ได้โดยที่ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของสีหรือลายที่พิมพ์
-
ผ้าโพลีเอสเตอร์มีข้อจำกัดในเรื่องของการระบายอากาศ เมื่อสวมใส่จึงอาจทำให้เกิดความอึดอัดและรู้สึกไม่สบายตัวเท่าที่ควร
ผ้าโพลีเอสเตอร์ผสมคอตตอน เป็นเนื้อผ้าที่ถูกผลิตขึ้นมาจากการนำเส้นใยฝ้ายธรรมชาติและเส้นใยโพลีเอสเตอร์สังเคราะห์ มาถักทอผสมผสานกันตามสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อให้ได้เนื้อผ้าชนิดพิเศษที่มีคุณสมบัติเด่นและซับซ้อนมากขึ้นกว่าเนื้อผ้าที่ถูกผลิตมาจากเส้นใยชนิดเดียว โดยผ้าโพลีเอสเตอร์ผสมคอตตอนสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่
1. ผ้า CVC
ผ้า CVC เป็นผ้าโพลีเอสเตอร์ผสมคอตตอนที่ผลิตขึ้นจากเส้นใยฝ้ายและเส้นใยโพลีเอสเตอร์ในอัตราส่วน Cotton 70-80% ต่อ Polyester 20-30% ทำให้ได้เนื้อผ้าที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา ระบายอากาศได้ดี ทำให้ง่ายต่อการสวมใส่ในทุกโอกาส จึงทำให้ผ้าโพลีเอสเตอร์ผสมคอตตอน ชนิด CVC เป็นที่นิยมอย่างมากในท้องตลาด โดยทั่วไปนิยมนำมาทำเป็นเสื้อโปโลและเสื้อยืด เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ดีเกือบเทียบเท่าผ้าคอตตอน ทว่ามีราคาที่ย่อมเยา และมีความคงทนที่มากกว่า และจุดเด่นที่เห็นได้ชัดอีกหนึ่งข้อของผ้าโพลีเอสเตอร์ผสมคอตตอน คือ เนื้อผ้ามีความอยู่ทรง ไม่หด ไม่ย้วย เมื่อผ่านการซักทำความสะอาดบ่อยครั้ง รวมถึงไม่ขึ้นขนและไม่เป็นเม็ดก้อน ทำให้มีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างยาวนาน
2. ผ้า TC
ผ้า TC เป็นผ้าโพลีเอสเตอร์ผสมคอตตอน ที่มีอัตราส่วนการผสมของเส้นใยโพลีเอสเตอร์มากกว่าเส้นใยฝ้ายธรรมชาติ ในอัตราส่วน Polyester 65% ต่อ Cotton 35% ทำให้เนื้อผ้าที่ได้มีความคงตัว ไม่ยับ ไม่หดง่าย เหมาะสำหรับการนำมาพิมพ์สีหรือลายด้วยหมึกซับลิเมชั่น (Sublimation) หรืองานรีดร้อน (Heat Transfer) โดยผ้าโพลีเอสเตอร์ผสมคอตตอน ชนิด TC มีข้อจำกัดในเรื่องของการระบายความร้อน จึงไม่เหมาะสำหรับการสวมใส่เพื่อทำกิจกรรมในที่โล่งแจ้งหรือกลางแดด ในขั้นตอนการผลิตจึงได้มีการพัฒนาคุณสมบัติของผ้าโดยการนำมาทอแบบ Juti หรือการทอเป็นรูปรังผึ้ง เพื่อให้เส้นใยมีรูเล็ก ๆ สำหรับช่วยในการระบายอากาศได้ดีมากขึ้น
ผ้าลินิน
ผ้าลินิน เป็นเนื้อผ้าที่ถักทอขึ้นมาจากเส้นใยของพืชชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า แฟล็กซ์ (Flax) โดยพืชชนิดนี้นิยมปลูกกันมากในภาคพื้นยุโรป เช่น เบลเยียม และรัสเซีย เนื่องจากสามารถเจริญเติบโตได้ดีที่สุดในภาคพื้นที่มีอากาศเย็น สำหรับกระบวนการในการผลิตเส้นใยเพื่อนำมาถักทอเป็นผืนผ้าลินินนั้น จะเริ่มต้นจากนำต้นแฟล็กซ์มาหมักให้ต้นเปื่อยนุ่ม ก่อนจะนำไปมัดเป็นฟ่อนแล้วนำไปตากให้แห้ง เมื่อแห้งสนิทดีแล้วจึงนำมาบดทับให้ส่วนของลำต้นและก้านแตกออกจากกันจนเห็นเป็นเส้นใย แล้วจึงนำเส้นใยเหล่านั้นไปเข้าเครื่องหวีให้เรียบ เพื่อนำไปปั่นเป็นเส้นใยและเส้นด้ายในท้ายที่สุด
คุณสมบัติของผ้าลินิน
-
คุณสมบัติส่วนใหญ่ของผ้าลินินนั้นจะมีความคล้ายคลึงกับคุณผ้าคอตตอน แต่จะแตกต่างกันตรงที่ ผ้าลินินมีความแข็งแรง ทนทาน มากกว่าผ้าคอตตอนสองถึงสามเท่า เนื่องจากเส้นใยมีความเหนียวมากกว่า
-
เส้นใยของผ้าลินินมีลักษณะเป็นรูพรุน จึงแห้งได้เร็ว และมีคุณสมบัติในการดูดความชื้นและระบายความร้อนได้ดี อีกทั้งยังสามารถเก็บความอบอุ่นได้ จึงนิยมนำมาใช้สำหรับตัดเป็นเสื้อผ้าหรือเครื่องนอนในช่วงฤดูร้อน
-
ผ้าลินินมีคุณสมบัติพิเศษตรงที่ ยิ่งซัก ก็จะยิ่งทำให้มีความมันวาว จนดูเหมือนใหม่
-
ผ้าลินินมีข้อจำกัดในเรื่องความยืดหยุ่น เมื่อสวมใส่จึงอาจเกิดรอยยับได้ง่าย
-
ผ้าลินินมีให้เลือกมากมายหลากหลายสีสัน เนื่องจากผลิตขึ้นจากเส้นใยธรรมชาติ จึงสามารถเก็บสีย้อมได้ดีกว่าวัสดุอื่น ๆ และมีเนื้อผ้าให้เลือกหลายแบบ ตั้งแต่แบบเนื้อละเอียดบางเบาไปจนถึงเนื้อหยาบหนา จึงเหมาะที่จะนำมาใช้ในการผลิตสิ่งทอที่หลากหลาย เช่น เป็นผ้าปูโต๊ะ ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ผ้าม่าน และผ้าตัดเสื้อหน้าร้อน เป็นต้น
ผ้าอ๊อกฟอร์ด
ผ้าอ๊อกฟอร์ด คือ ผ้าคอตตอนที่มีการถักทอออกมาเป็นพิเศษด้วยเทคนิคที่มีชื่อว่า Basket Weave ซึ่งเป็นการสานด้ายเส้นใหญ่เหนือด้ายเส้นเล็กสองเส้น แล้วจึงลอดด้ายเส้นเล็กหนึ่งเส้น โดยทำวนสลับไปอย่างนี้เรื่อย ๆ เมื่อนำไปย้อมสี ด้ายบางส่วนของผ้าอ๊อกซฟอร์ดจึงไม่ติดสีย้อมไปด้วย ทำให้เห็นเป็นลวดลายตารางถี่ ๆ ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
โดยเนื้อสัมผัสของผ้าอ๊อกฟอร์ดจะมีความนุ่ม ไม่ระคายเคืองผิว อีกทั้งยังสามารถระบายเหงื่อได้เป็นอย่างดี จึงนิยมนำมาตัดเป็นเสื้อเชิ้ตที่สามารถสวมใส่ได้ทั้งในรูปแบบสปอร์ตและแบบทางการ โดยเสื้อที่ตัดจากผ้าอ๊อกฟอร์ดนั้น นิยมตัดเย็บให้เข้ารูปพอดีตัวแบบ Slim fit หรือ Normal fit เนื่องจากจะช่วยทำให้ผู้สวมใส่มีรูปร่างและสรีระที่ดูดีมากยิ่งขึ้น
คุณสมบัติของผ้าอ๊อกฟอร์ด
-
ผ้าอ๊อกฟอร์ดมีคุณสมบัติในการระบายอากาศได้ดี สามารถสวมใส่ได้ง่าย และช่วยให้รู้สึกสบายขณะสวมใส่ จึงเหมาะสำหรับการสวมใส่อย่างยาวนานตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน
-
เนื้อผ้าอ๊อกฟอร์ดมีลักษณะหนา และมีน้ำหนักที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงทำให้มีความทนทานค่อนข้างสูง
-
เนื้อผ้ามีความนุ่ม ไม่ระคายเคืองผิว
-
ผ้าอ๊อกฟอร์ดผ่านกระบวนการผลิตและจัดเรียงแบบพิเศษ ทำให้ยับยาก และสามารถรีดเรียบได้ง่าย
ผ้าทวิล
ผ้าทวิล หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันว่า “ผ้าลายสอง” เป็นผ้าที่ถูกถักทอออกมาด้วยเทคนิคพิเศษ เพื่อให้ได้ผ้าที่มีลักษณะลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของลายเส้นทแยงมุมที่ขนานกันไปตลอดทั้งผืน สำหรับการทอผ้าทวิลนั้นจะทอจากเส้นใยฝ้าย เส้นใยลินิน เส้นใยไหม หรือเส้นใยสังเคราะห์ก็ได้ โดยจะเริ่มต้นจากการใช้เส้นด้ายด้านบนแบบเส้นเดี่ยวพาดทับกับเส้นด้ายด้านล่าง 2 เส้น และทอเลื่อนไปในแต่ละแถวเพื่อให้เกิดลวดลายที่เป็นเส้นทแยงมุมขึ้น
สำหรับความหนาบางของผ้านั้นจะวัดจากน้ำหนักของผ้า ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปตามขนาด ประเภท และจำนวนของเส้นด้ายที่นำมาใช้ทอผ้าทวิล ในตลาดผ้าบางแห่ง มักจะมีการเรียกผ้าทวิลที่มีน้ำหนักมากกว่า 12 ออนซ์ ว่า “Bull Denim” หรือผ้าหนังควาย เพื่อให้ง่ายต่อการแยกประเภทเพื่อการนำมาใช้งาน
คุณสมบัติของผ้าทวิล
-
ผ้าทวิลเป็นผ้าที่มีเนื้อสัมผัสนุ่ม แต่มีโครงสร้างของเส้นด้ายที่มีความแข็งแรง คงทน และมีลวดลายที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์
-
ผ้าทวิลเหมาะสำหรับการนำมาตัดเย็บเป็นเสื้อเชิ้ตทางการและเสื้อเชิ้ตทำงาน เนื่องจากรีดได้ง่าย และเกิดรอยยับได้ยาก มีความยืดหยุ่นที่ค่อนข้างดี อีกทั้งเนื้อผ้ายังช่วยส่งเสริมให้เสื้อเชิ้ตดูมีความเงาขึ้นมากกว่าเนื้อผ้าแบบปกติ
-
ผ้าทวิลมีระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนานกว่าผ้าทั่วไป
-
การทอผ้าด้วยลวดลายเส้นทแยงมุมที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ผ้าทวิลมีคราบเลอะเปรอะเปื้อนฝังติดได้ยากกว่าผ้าลายอื่น ๆ
ผ้า wrinkle-free
Wrinkle-free เป็นนวัตกรรมพิเศษที่ถูกคิดค้นขึ้นมาสำหรับการผลิตผ้าที่สามารถคืนตัวจากรอยยับได้ดี โดยผ้า wrinkle-free นั้นถูกผลิตขึ้นมาจากการผสมผสานระหว่างเส้นใยโพลีเอสเตอร์และเส้นใยคอตตอน ในสัดส่วนคอตตอน 50 % ไปจนถึง 100% และใช้สารเคมีประเภท Ethylene ที่ช่วยละความยับจากการสวมใส่ลงไปได้ทั้งนี้ทั้งนั้นก๊ยังขึ้นอยู่กับส่วนผสมของผ้า เพราะผ้าที่มีโพลีเอสเตอร์ผสมจะช่วยให้ยับน้อยกว่าและลดการยับได้นานกว่าแม้จะผ่านการซักมาหลายสิบครั้งก็ตามและสามารถอยู่ทรงได้ตลอดทั้งวัน เพื่อช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้สวมใส่ในระหว่างที่ต้องทำกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดทั้งวัน
สารเคมีที่ช่วยในการลดการยับตัวสำคัญสำหรับผ้าเชิ้ตที่เป็นค้อตต้อน100% คือ Liquid Ammonia Dry Cure หรือ Liquid Ammonia Moist cure ซึ่งสามารถให้ DP rate ได้สูงสุดจนถึง 4.00
DP Rate ย่อมาจาก Durable Press Rate หรือ อัตราการคงรูปของเนื้อผ้าที่ผ่านการะบวนการทางเคมีให้ไม่เกิดรอยยับทั้งตอนเปียกและแห้ง ไม่หดตัวคงสถาพอยู่ทรงตลอด
คุณสมบัติของผ้า wrinkle-free
- ผ้า wrinkle-free มีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถช่วยซับน้ำ ซับเหงื่อ และยังสามารถระบายอากาศได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกสบาย ไม่ร้อน
- เนื้อผ้า wrinkle-free มีความคงทนต่อรอยยับ สามารถอยู่ทรงดีได้ตลอดทั้งวัน แม้นำไปซักผ้าก็สามารถคืนตัวจากรอยยับได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ง่ายต่อการรีด
- ผ้า wrinkle-free ดูแลรักษาได้ง่าย ไม่ขึ้นขุย ไม่เก่าเร็ว
หลายปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีการค้นคว้าวิจัยที่เจริญก้าวหน้า ทำให้ได้มีการพัฒนาประเภทผ้าด้วยเส้นด้ายใหม่ๆ เพื่อความสบายในการตัดเย็บสวมใส่ เพิ่มเข้ามาอย่างเช่น
ผ้า Tencel (Lyocell)
เป็นเส้นใยประดิษฐ์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ในปี 2010 เป็นเส้นใยเดียวที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ซึ่งแตกต่างจากโพลีเอสเตอร์หรือไนลอนมันไม่ได้ทำจากโพลิเมอร์สังเคราะห์อย่างสมบูรณ์ แต่จากเซลลูโลสที่มาจากไม้ Lyocell เป็นที่รู้จักในเชิงพาณิชย์เป็น Tencel ในสหรัฐอเมริกาเป็นเส้นใยประดิษฐ์ที่ทำจากเยื่อเซลลูโลส เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากเยื่อไม้ที่เก็บเกี่ยวจากพืชต้นไม้จึงเป็นวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม แม้ว่ามันจะเป็นเส้นใยที่ผลิตขึ้นมา แต่ก็ถือว่าเป็นธรรมชาติและสามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ มันละลายในสารที่ละลายได้รีไซเคิลและปลอดสารพิษผ้าสามารถทำทั้งหมดด้วย ตลาดมีความนิยมใช้เส้ยใย Tencel หรือรวมกับวัสดุอื่น ๆ เพื่อลดต้นทุน ผ้าที่ทำจากเส้นใย Tencel มีความคล้ายคลึงกับฝ้ายมาก มีความทนทานต่อรอยยังและไม่หดตัว เนื้อผ้านุ่มและเนียน สวยงามและสามารถตัดเป็นชุดที่เป็นทางการที่สง่างาม
ผ้าใยไผ่ Bamboo
คืออีกหนึ่งนวัตกรรมที่นำเอาเส้นใยธรรมชาติจากต้นไผ่ มาถักทอเป็นผืนผ้าคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ผ้าใยไผ่ (Bamboo Fabrics) มีความนุ่มนวล เบาสบาย และไม่ระคายเคืองต่อผิวแพ้ง่าย ที่สำคัญราคาไม่แพงและทนทานต่อการใช้งาน ด้วยคุณภาพของเนื้อผ้าที่มีความนุ่มอย่างน่าอัศจรรย์ เทียบเท่ากับผ้าไหม ผ้าแคชเมียร์หรือแม้แต่อียิปต์เชี่ยนคอตตอน ผ้าใยไผ่ยังมีส่วนช่วยในการลดภาวะโลกร้อน ทำให้ผ้าใยไผ่เป็นวัตถุดิบในการผลิตที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม นวัตกรรมผ้าประเภทใหม่ๆเหล่านี้ กำลังได้รับความนิยมสูงสุด และไว้วางใจโดยแบรนด์ระดับโลกเช่น Uniqlo, Zara ด้วยผิวสัมผัสของผ้าที่ใหม่ ไม่เหมือนผ้าที่ใส่เส้นด้ายแบบเก่า
ลูกค้าที่สนใจสามารถให้ทางดีไฟเนสต์ แฟบริค ผลิตให้กับลูกค้าได้ตามความต้องการ ติดต่อเราได้ทันทีเพื่อคุยรายละเอียดเพิ่มเติม ดีไฟนเนสต์ แฟบริค เป็นบริษัทที่มุ่งเน้นด้านคุณภาพเป็นหลัก บริษัทของเราเป็นผู้ผลิตผ้าที่มีมาตรฐานเป็นรุ่นที่ 4 ด้วยประสบการณ์ที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น มากว่า 80 ปี บวกกับการนำวิวัฒนาการสิ่งทอใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ จึงทำให้เราสามารถผลิตผ้า ซึ่งคุณภาพเกินราคา ผ้ากว่า 1,000 รายการพร้อมขายส่ง ผ้ากว่า 1,000 รายการ ผ้าโพลีเอสเตอร์ผสมคอตตอน ผ้าลินิน ผ้าทวิล ผ้าอ๊อกฟอร์ด พร้อมตัดปลีกอย่างไม่มีขั้นต่ำ
ติดต่อเราเพื่อขอรับแคตตาล๊อคผ้าคุณภาพของดีไฟเนสต์ แฟบริค
สำนักงาน : +662-391-5737
สำนักงาน : +662-391-5738
สำนักงาน : +662-391-5739
มือถือ : +6686-633-8118
มือถือ : +6685-612-6555
อีเมล : dfinestfabric@gmail.com
Line : dfinest